วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

แนะนำตัว

ชื่อ โมไนย นาควงศ์วาลย์
เรียนอยู่ มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
สาขาที่เรียนคือ animation&multimedia
รหัสนักศึกษา 5221245005

หนังที่ชอบ คือ the lord of the rings
ผมจะแนะนำตัวละครสำคัญๆในเรื่องดังนี้นะครับ

วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2553

GimlY

กิมลี เป็นบุตรของโกลอิน คนแคระที่ได้ร่วมผจญภัยกับ บิลโบ แบ๊กกิ้นส์ ในเรื่องเดอะฮอบบิท เป็นบุตรหลานผู้สืบตระกูลของ ดูรินผู้เป็นอมตะ ผู้นำของเจ็ดบิดาของคนแคระผู้ยิ่งใหญ่ในยุคโบราณกาล กิมลีมีกำเนิดในตระกูลเจ้าแห่งคนแคระ แต่ไม่ได้อยู่ในลำดับสืบสันตติวงศ์โดยตรง เขายังเป็นญาติใกล้ชิดกับ บาลิน เจ้าผู้ครองคาซัดดูม ในยุคที่สาม ซึ่งเคยร่วมเดินทางผจญภัยกับบิลโบ แบ๊กกิ้นส์ ด้วยเช่นกัน
กิมลีเดินทางมายังริเวนเดลล์พร้อมกับบิดา เพื่อแจ้งข่าวสถานการณ์ในเอเรบอร์ เขาได้เข้าร่วมในที่ประชุมของเอลรอนด์ และได้รับเลือกให้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะพันธมิตรแห่งแหวน ในฐานะตัวแทนของเหล่าคนแคระ
กิมลีมีอคติกับพวกเอลฟ์มาแต่ไหนแต่ไร และมักมีเหตุขัดแย้งกับเลโกลัส เจ้าชายเอลฟ์แห่งเมิร์ควู้ดอยู่เนืองๆ จนเมื่อเขาได้พบกับเลดี้กาลาเดรียล แห่งลอธลอริเอน ความคิดเกี่ยวกับเอลฟ์ของเขาจึงเปลี่ยนไป ด้วยความงดงาม ความเมตตา และความปรานีของนางประทับใจกิมลีอย่างมาก เมื่อคณะพันธมิตรแห่งแหวนจะออกเดินทางจากลอธลอริเอน กาลาเดรียลขอให้แต่ละคนขอของขวัญสำหรับตัวได้ กิมลีไม่ได้ขอสิ่งมีค่าอันใดเลยนอกจากเส้นเกศาสีทองเหลือบเงินอันงดงามของนาง ซึ่งนางได้มอบเส้นเกศาให้แก่กิมลีถึง 3 เส้น หลังจากนั้น สัมพันธภาพระหว่างกิมลีกับเลโกลัสก็ดีขึ้นเป็นลำดับ
กิมลีได้แสดงความสามารถในการรบเป็นที่ประจักษ์หลายครั้งในสมรภูมิต่างๆ ของสงครามแหวน โดยเฉพาะอย่างที่การรบที่เฮล์มสดีพ หลังสิ้นสุดสงครามแหวน กิมลีได้นำเหล่าคนแคระพลเมืองของดูรินจำนวนมากมาตั้งอาณาจักรใหม่ขึ้นที่อะกลารอนด์ เขาได้ขึ้นเป็นลอร์ดแห่งอะกลารอนด์คนแรก เหล่าคนแคระช่วยกันซ่อมแซมฟื้นฟูสภาพอันพินาศจากสงครามให้กลับคืนดี ผลงานที่สำคัญของพวกเขาคือ ประตูใหญ่ของนครมินัสทิริธ ซึ่งสร้างขึ้นด้วยโลหะและมิธริล และยังช่วยซ่อมแซมสถานที่สำคัญต่างๆ ในนครอีกเป็นจำนวนมาก
ไม่มีที่ใดบันทึกว่า กิมลีเสียชีวิตเมื่อใด แต่ตามที่ปรากฏในหนังสือสมุดปกแดงแห่งเวสต์มาร์ช หลังจากที่กษัตริย์อารากอร์นสิ้นพระชนม์ในปีที่ 120 ของยุคที่สี่ กิมลีได้ออกเดินทางไปยังดินแดนอมตะทางทิศประจิมพร้อมกับเลโกลัส

Aragorn



ประวัติย่อ ::

ผลงานแรกของเขาคือบทของชาวนาใน WITNESS อาชีพการแสดงของ วิกโก้ มอร์เทนเซ่น เริ่มต้นขึ้นพร้อมบทบาทการแสดงอันหลากหลาย และเมื่อเร็ว ๆ นี้เขาก็เพิ่งจะรับบทของคาวบอยนักแข่งม้าระยะไกล “แฟรงค์ ร็อบกินส์” ใน “HIDALGO” นักวิจารณ์ให้การยอมรับในผลงานของเขาที่มีมากกว่า 30 เรื่อง รวมทั้ง THE LORD OF THE RINGS – เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์,A WALK ON THE MOON,PORTRAIT OF A LADY,CARLITO’S WAY และ THE INDIAN RUNNER โดยที่ในขณะนี้เขากำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ของเอกัสติน ดีแอซ ยาเนซ อันเป็นหนังอีพิคย้อนยุคไปในศตวรรษที่ 17เรื่อง ALATRISTE อยู่ในสเปน วิกโก้เกิดในนิวยอร์ก แม่เป็นชาวอเมริกัน ส่วนพ่อเป็นชาวเดนมาร์ก เขาใช้ชีวิตวัยเด็กในแมนฮัตตัน ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวนักเดินทาง วิกโก้ใช้เวลาหลายปีอาศัยอยู่ในเวเนซูเอล่า,อาร์เจนติน่า และเดนมาร์ก เริ่มต้นงานการแสดงในนิวยอร์กด้วยการเรียนกับ วอร์เรน โรเบิร์ตสัน รวมไปถึงการเล่นละครเวทีอีกหลายเรื่องก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่ลอสแองเจลิส นอกจากนี้วิกโก้ยังเป็นทั้งกวี,ช่างถ่ายภาพและจิตกรอีกด้วย ต่อมาในปี 2002 เขาได้ก่อตั้งสำนักพิมพ์ PERCEVAL PRESS ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์อิสระที่ตีพิมพ์งานเกี่ยวกับศิลปะ,บทกวี และบทวิจารณ์ต่าง ๆ รวมทั้งหน้าที่หลักอย่างการตีพิมพ์ตำรา,ภาพ และแผ่นเสียงซึ่งไม่มีใครเคยสนใจมาก่อน และเมื่อเร็ว ๆ นี้ มอร์เทนเซ่น เพิ่งเสร็จสิ้นจากการแสดงภาพถ่ายชุด “MIYELO” ที่ สตีเฟ่น โคเซน แกลเลอรี่ ในลอสแองเจลิส และ แอดดิสัน ริปลีย์ แกลเลอรี่ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นอกจากนี้เขายังได้แสดงผลงานที่ โรเบิร์ตมาน์ แกลเลอรี่ ในนิวยอร์ก เช่นเดียวกับที่ในนิวซีแลนด์,เดนมาร์ก และคิวบา


ประวัติเรียงตาม :: - ผลงานแสดง
ผลงานแสดงที่ผ่านมา
The Road(2009) ...เดอะ แมน
Eastern Promises(2008) ...นิโคไล
A History of Violence(2006) ...ทอม สตอล
Hidalgo(2004) ...แฟรงก์ ที ฮอปกิ้นส์
The Lord of the Rings I(2001) ...อารากอร์น/สไตรเดอร์
A Perfect Murder(1998) ...เดวิด ชอว์

Legolas


ชื่อ นามสกุล ออแลนโด้ บลูม ( ORLANDO BLOOM )- ชื่อเล่น Orli, OB- วันเกิด 13 มกราคม 1977- อายุ 27 ปี- ส่วนสูง 180 เซนติเมตร- พี่น้อง พี่สาว 1 คน ชื่อ Samantha แก่กว่าตัวเขา 2 ปี- งานอดิเรก เล่นฟุตบอล, สโนว์บอร์ด, วินเซิร์ฟ- กีฬาที่ชื่นชอบ ฟุตบอล ชอบทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ตอนนี้ชอบทีม รีล มาดริด เพราะเดวิด เบคแคม เล่นอยู่ทีมนี้- นักแสดงที่ชื่นชอบ Johnny Depp, Edward Norton, Paul Newman, Danniel Day-Lewis- ภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ Stand By Me- ผลงานภาพยนตร์ ปี 1997 ภาพยนตร์ Wilde รับบท Rentboy ปี 2001 ภาพยนตร์ Black Hawk Down รับบท Todd Blackburn
ปี 2001 ภาพยนตร์ Lord of the Rings : The Fellowship of the Ring รับบท Legolas
ปี 2002 ภาพยนตร์ Lord of the Rings : The Two Tower รับบท Legolas
ปี 2003 ภาพยนตร์ Ned Kelly รับบท Joe Byrne
ปี 2003 ภาพยนตร์ Pirates of the Caribbean : The Curse of the Black Pearl รับบท Will Turner
ปี 2003 ภาพยนตร์ Lord of the Rings : The Return of the King รับบท Legolas
ปี 2004 ภาพยนตร์ Troy รับบท Paris
ปี 2004 ภาพยนตร์ The Calcium Kid รับบท Jimmy
ปี 2004 ภาพยนตร์ Haven รับบท Shy
ปี 2005 ภาพยนตร์ Kingdom of Heaven รับบท Balian of Ibelin
ปี 2005 ภาพยนตร์ Elizabethtown รับบท Drew Baylor
ปี 2006 ภาพยนตร์ Pirates of the Caribbean 2 รับบท Will Turner- รางวัลที่ได้รับ
ปี 2002 รางวัล Best Debut จาก Empire Awards
ปี 2002 รางวัล Best Breakthrough Performance จาก Internet Movie Awards
ปี 2002 รางวัล Best Breakthrough Performance จาก MTV Movie Awards
ปี 2003 รางวัล Best Supporting Actor จาก AOL Moviegoer Awards
ปี 2003 รางวัล Best Film Actor จาก GQ Men of the Year Awards
ปี 2003 รางวัล Hollywood Breakthrough Male Performer จาก Hollywood Film Festival Awards
ปี 2004 รางวัล Best Acting by an Ensemble จาก National Board of Review Awards
ปี 2004 รางวัล Outstanding Performance by a Cast จาก Screen Actors Guild Awards
ปี 2004 รางวัล Sexiest Kiss จาก AOL Moviegoer Awards
ปี 2004 ราวัล '50 Most Beautiful จาก People Magazine ( USA )

เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน


เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน หรือชื่อเต็ม จอห์น โรนัลด์ รูเอล โทลคีน (John Ronald Reuel Tolkien นามปากกาว่า J. R. R. Tolkien ) (3 มกราคม พ.ศ. 24352 กันยายน พ.ศ. 2516) เป็นกวี นักประพันธ์ นักภาษาศาสตร์ และศาสตราจารย์ชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียงในฐานะผู้ประพันธ์นิยายแฟนตาซีระดับคลาสสิค เรื่องเดอะฮอบบิท และ
เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์
โทลคีนเข้าศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียนคิงเอดเวิดส์ เมืองเบอร์มิงแฮม และจบการศึกษาระดับปริญญาจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เข้าทำงานครั้งแรกในตำแหน่งอาจารย์ที่ มหาวิทยาลัยลีดส์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2463 - 2468 ได้เป็นศาสตราจารย์สาขาแองโกลแซกซอน ตำแหน่ง Rawlinson and Bosworth Professor ที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ตั้งแต่ พ.ศ. 2468 - 2488 และได้เป็นศาสตราจารย์ด้านภาษาและวรรณคดีอังกฤษ ตำแหน่ง Merton Professor ตั้งแต่ พ.ศ. 2488 - 2502 โทลคีนได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งราชอาณาจักรบริเตน ระดับ Commander จากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2515
โทลคีนนับเป็นชาวคาทอลิกที่เคร่งครัด เป็นสมาชิกของกลุ่มที่ชุมนุมเพื่อถกเถียงด้านวรรณกรรม ชื่อ อิงคลิงส์ (Inklings) และได้รู้จักสนิทสนมกับ ซี. เอส. ลิวอิส นักเขียนนวนิยายและวรรณกรรมเยาวชน เรื่องตำนานแห่งนาร์เนีย ที่มีชื่อเสียงอีกคนหนึ่งของอังกฤษ
ในช่วงปีตั้งแต่เกษียน พ.ศ. 2502 (ค.ศ. 1959) จนถึงเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2516 (ค.ศ. 1973) โทลคีนมีชื่อเสียงจากนิยายของเขาอย่างมาก เขาโด่งดังไปทั่วอังกฤษและอเมริกา และได้รับเงินส่วนแบ่งจากค่าลิขสิทธิ์หนังสือเป็นจำนวนมาก จนโทลคีนเคยคิดว่าเขาน่าจะเกษียณตัวเองเร็วกว่านี้ แฟนหนังสือพากันเขียนจดหมาย โทรศัพท์ไปหา หรือแม้กระทั่งเดินทางไปยังบ้านของโทลคีน เพื่อถามรายละเอียดของเรื่องราวให้มากยิ่งขึ้น จนที่สุดโทลคีนต้องยกเลิกหมายเลขโทรศัพท์ และย้ายไปอยู่ Bournemouth ในทางใต้
หลังจากโทลคีนเสียชีวิต ลูกชายของเขา คริสโตเฟอร์ โทลคีน ได้นำเรื่องที่บิดาของตนแต่งค้างไว้หลายเรื่องมาเรียบเรียงและตีพิมพ์ รวมถึงเรื่อง ซิลมาริลลิออน งานประพันธ์ชิ้นนี้ประกอบกับเรื่อง เดอะฮอบบิท และ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ รวมกันได้สร้างให้เกิดโลกจินตนาการซึ่งกอปรด้วยเรื่องเล่า ลำนำ บทกวี ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และภาษาประดิษฐ์ ในโลกจินตนาการที่ชื่อว่า อาร์ดา และแผ่นดินมิดเดิลเอิร์ธ ซึ่งเป็นฐานของงานประพันธ์ปกรณัมทั้งมวลของโทลคีน
แม้ว่านิยายแฟนตาซีจะมีกำเนิดมาก่อนหน้านั้นแล้ว ทว่าความสำเร็จอย่างสูงของ เดอะฮอบบิท และ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ในสหรัฐอเมริกานำมาซึ่งกระแสความนิยมของนิยายแนวนี้ขึ้นมาใหม่ และทำให้โทลคีนได้รับขนานนามว่า บิดาแห่งวรรณกรรมแฟนตาซีระดับสูงยุคใหม่ (father of the modern high fantasy genre) ผลงานของโทลคีนสร้างแรงบันดาลใจให้แก่งานแฟนตาซียุคหลังรวมถึงศิลปะแขนงอื่นที่เกี่ยวข้องมากมาย ในปี พ.ศ. 2551 (ค.ศ.2008) นิตยสารไทมส์จัดอันดับโทลคีนอยู่ในลำดับที่ 6 ใน 50 อันดับแรกของ "นักประพันธ์ชาวอังกฤษผู้ยิ่งใหญ่ยุคหลังปี 1945"

The Lord of The RinGs



the lord of the rings เป็นนิยายแฟนตาซีขนาดยาว ประพันธ์โดยศาสตราจารย์ชาวอังกฤษ
เจ.อาร์.อาร์.โทลคีน เป็นนิยายที่ต่อเนื่องกับนิยายชุดก่อนหน้านี้ของโทลคีน คือ เรื่อง
There and Back Again หรือที่รู้จักกันดีอีกชื่อหนึ่งว่า เดอะฮอบบิท แต่ได้ขยายโครงเรื่องซับซ้อน
ไปกว่า เดอะฮอบบิท มาก โทลคีนแต่งเรื่องนี้ขึ้นในช่วงนี้ พ.ศ.2480-2492 (ค.ศ.1937-1949)
และได้วางจำหน่ายในปี ค.ศ.1954-1955 โดยแบ่งตีพิมพ์ออกเป็น 3 ตอน เนื่องจากหนังสือมีความยาวมากจนสำนักพิมพ์เห็นว่าไม่สามารถตีพิมพ์รวมเป็นเล่มเดียวกันได้ นิยายเรื่องนี้ได้แปลไปเป็นภาษาต่างๆ มากมายไม่น้อยกว่า 38 ภาษา และได้รับยกย่องให้เป็นนิยายที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของคริสต์ศตวรรษที่ 20
เรื่องราวใน เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ เกิดขึ้นบนดินแดนในจินตนาการที่มีชื่อว่า มิดเดิลเอิร์ธ ตัวละครในเรื่องมีหลายเผ่าพันธุ์ เช่น มนุษย์ เอลฟ์ (หรือ พราย ในฉบับแปลภาษาไทย) ฮอบบิท คนแคระ พ่อมด และออร์ค หัวใจของเรื่องเกี่ยวข้องกับเอกธำมรงค์ ซึ่งสร้างโดยจอมมารเซารอน เหตุการณ์ในเรื่องเริ่มต้นจากดินแดนไชร์อันสุขสงบ ไปยังส่วนต่าง ๆ ของมิดเดิลเอิร์ธ จนถึงเหตุการณ์สงครามแหวน โดยผ่านมุมมองของตัวละครฮอบบิทคนหนึ่งที่ชื่อ โฟรโด แบ๊กกิ้นส์ ในตอนท้ายของเรื่องยังมีภาคผนวกอีก 6 ชุดที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของโลกในนิยาย รวมถึงภูมิหลังด้านภาษาศาสตร์ของวัฒนธรรมต่าง ๆ ในนิยายด้วย
เมื่อพิจารณางานเขียนชิ้นอื่น ๆ ของโทลคีนประกอบ จะเห็นว่า เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ เป็นชิ้นงานที่ขยายผลมาจากโครงเรื่องต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ เป็นชิ้นงานที่มีความซับซ้อน และยังเป็นเหตุการณ์ในลำดับสุดท้ายของปกรณัมของโทลคีนที่ได้บรรจงสร้างมาเนิ่นนานตั้งแต่ พ.ศ. 2460 (ค.ศ. 1917) ผลงานเรื่อง เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ และงานเขียนชิ้นอื่น ๆ ของเขาได้แสดงให้เห็นถึงความลุ่มลึกทางด้านภาษา ด้านโครงตำนาน ด้านแนวคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสู่อุตสาหกรรม และด้านศาสนศาสตร์ จนส่งผลต่อวงการวรรณกรรมแฟนตาซียุคต่อมาเป็นอย่างมาก ผลกระทบจากงานของโทลคีนต่อสังคมทำให้คำว่า "แบบโทลคีน" ("Tolkienian" และ "Tolkienesque") ถูกบรรจุลงในพจนานุกรมภาษาอังกฤษ ฉบับออกซฟอร์ด [2]
ความนิยมอย่างล้นหลามและยาวนานในหนังสือ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ยังเป็นจุดกำเนิดของงานเทศกาล ประเพณี ชมรม และสมาคมต่าง ๆ มากมาย โดยบรรดาผู้ชื่นชอบผลงานของเขา [3] รวมทั้ง หนังสือในแง่มุมหลายหลากเกี่ยวกับตัวของโทลคีนหรืองานเขียนชิ้นต่าง ๆ ของเขา เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ได้สร้างให้เกิดแรงบันดาลใจอย่างต่อเนื่องต่องานศิลปะ ภาพวาด ดนตรี ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ เกม และวรรณกรรมชิ้นอื่น ๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน มีการดัดแปลงนิยายเรื่องนี้ไปเป็นบทละครวิทยุ ละครเวที รวมถึง ภาพยนตร์หลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ไตรภาคในระหว่างปี ค.ศ. 2001-2003 เป็นครั้งที่กระตุ้นให้เกิดกระแสความสนใจในผลงานของโทลคีนขึ้นมาอย่างสูงมากอีกครั้งหนึ่ง
credit by wikipedia